ตามล่าหาตัวคนร้ายฆ่าน้องชมพู่ เป็นชายใส่เสื้อสีส้ม คาดว่าเป็นคนสวน
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ข่าวที่เป็นข่าวใหญ่โต นั่นก็คือข่าวที่มีการตามหาตัวน้องชมพู่เด็กหญิงวัยเพียง 3 ขวบเท่านั้นที่หายออกจากบ้านไปซึ่งหลังจากที่มีการติดตามหาตัวน้องเป็นระยะเวลาประมาณ 5 วันในที่สุดก็ได้พบร่างของน้องเสียชีวิตอยู่ในป่าบริเวณภูเขาหลังบ้านของน้องชมพู่เองซึ่งห่างจากตัวบ้านของน้องชมพู่ไปเป็นระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร
ในขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการส่งร่างของน้องชมพู่ไปทำการตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตซึ่งพบว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นอาจจะมาจากการที่น้องขาดน้ำแต่มีการตรวจร่างกายแล้วก็พบว่าน้องนั้นน่าจะถูกข่มขืนด้วยเช่นเดียวกันโดยเมื่อมีการตรวจสอบหลักฐานเพิ่มเติมพบว่าก่อนที่น้องจะเสียชีวิตหรือหายตัวออกจากบ้านนั้น
พบว่ามีคนเห็นผู้ชายใส่เสื้อสีส้มสวมหมวกคลุมหัวกุ้งน้องออกจากบ้านซึ่งในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็พยายามติดตามหาตัวชายเสื้อสีส้มดังกล่าวโดยเมื่อมีการไปตรวจสอบคนในหมู่บ้านก็พบว่าคนทั้งหมู่บ้านนั้นมีเสื้อสีส้มกันหมดทุกหลังคาเรือนจากว่าเสื้อสีส้มนี้ตามลักษณะของคนร้ายที่อุ้มน้องชมพู่ไปนั้นเป็นเสื้อที่มีการแจกให้กับผู้ที่ไปซื้อปุ๋ยในตลาดโดยมีร้านค้าในตลาดอยู่ 2 ร้านที่มีการแจกเสื้อหากลูกค้าไปซื้อปุ๋ยได้ในปริมาณที่มีการออกโปรโมชั่นไว้
ดังนั้นจึงทำให้เสื้อสีส้มนั้นมีทุกบ้านที่ใส่เสื้อสีนี้จึงเป็นเรื่องยากมากที่จะตามหาตัวคนร้ายในขณะเดียวกันทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการนำตัวผู้ต้องสงสัยรวมทั้งสิ้นประมาณ 8 คนมาทำการสืบสวนสอบสวนอยู่ในขณะนี้แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า 1 ใน 8 คนนั้นเป็นคนร้ายที่นำร่างของน้องชมพู่ไปหรือไม่ส่วนทางด้านนักข่าวเอง
ก็มีการลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งนักข่าวนั้นก็ได้ลงพื้นที่ไปในตลาดที่มีการระบุไว้ว่าเป็นร้านขายปุ๋ยซึ่งทั้ง 2 ร้านก็ให้ข้อมูลก่อนนะคะว่าสำหรับลูกค้าที่มาซื้อปุ๋ยรับเสื้อแตกไปนั้นทางร้านไม่สามารถทำนายได้ว่ามีใครบ้างเพราะแต่ละวันมีคนเข้าออกภายในร้านเป็นจำนวนมากและเสื้อนี้ก็มีการทำมาหลายตัวดังนั้นไม่สามารถระบุตัวคนร้ายได้
เนื่องจากว่าใครๆก็สามารถใส่เสื้อสีส้มได้รวมถึงหมวกที่คนร้ายมีการใส่นั้นก็เป็นหมวกที่ทางร้านมีการแจกให้กับคนที่มาซื้อของที่ร้านจึงทำให้เป็นเรื่องยากมากที่จะสามารถระบุตัวคนร้ายได้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอาจจะต้องมีการหาหลักฐานอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อมามัดตัวคนร้ายในขณะเดียวกันที่คนในหมู่บ้านก็เริ่มไม่พอใจพ่อแม่ของน้องชมพู่ที่ออกมาให้ข่าวเหมือนกับว่าสงสัยคนในหมู่บ้าน
ทั้งๆที่คนในหมู่บ้านนั้นต่างก็ช่วยกันออกตามหาน้องชมพู่เมื่อครั้งที่น้องชมพู่หายตัวไปถึงในขณะนี้ที่ยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายได้กลายเป็นว่าคนในหมู่บ้านกลายเป็นผู้ต้องสงสัยทั้งหมดจึงทำให้เริ่มรู้สึกไม่พอใจกับการให้ข่าวของครอบครัวของน้องชมพู่ซึ่งต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ไขคดีว่าในที่สุดแล้วใครกันแน่ที่เป็นคนร้ายที่ทำร้ายน้องชมพู่จนถึงแก่ความตายได้
ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย sagame คาสิโนออนไลน์