วิถีชีวิตในชนบท

เสน่ห์และความสวยงามของสังคมชนบท คือความเรียบง่าย และความเป็นธรรมชาติ วิถีการดำเนินชีวิตในชนบทก็ไม่ต่างกัน ไม่ต้องอาศัยความรีบเร่ง ไม่ต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกับใคร มีความสุขพอเพียงตามอัตภาพของตนเอง ได้สัมผัสกับอากาศและธรรมชาติที่บริสุทธิ์ ไม่ต้องยึดติดกับวัตถุสิ่งของ หรือเทคโนโลยีต่างๆ ตั้งแต่ตื่นนอนตอนเช้าไปจนกระทั่งถึงเข้านอน ตอนเช้าๆบางครอบครัวที่เลี้ยงวัว เลี้ยงควายเอาไว้เพื่อใช้งาน
จะนำวัวควายออกจากคอก เพื่อนำไปเลี้ยงที่ทุ่งนา ส่วนคนที่อยู่ที่บ้านก็จะหุงหาอาหารเตรียมไว้รอ จะได้กินข้าวที่บ้านพร้อมหน้าพร้อมตากัน หรือบางครอบครัวก็จะเอากับข้าวไปส่งที่ทุ่งนาเลย เตรียมพร้อมที่จะทำนา หรือทำการเกษตรตามฤดูกาล โดยเฉพาะหากเป็นช่วงฤดูฝนที่เป็นช่วงเริ่มทำการปลูกข้าว หรือทำไร่ ทำสวน บริเวณพื้นที่แถวนั้นก็จะเขียวขจีไปด้วยสีเขียว มองแล้วสบายตา
ไม่เหมือนกับสังคมในเมืองที่มองไปทางไหนก็เจอแต่ตึกรามบ้านช่อง การจราจรที่ติดขัด ปนเปื้อนไปด้วยมลพิษ หาอากาศที่บริสุทธิ์ไม่ได้เลย ยิ่งมองถึงอาหารการกินหากอยู่ในชนบทก็หาอาหารที่มีตามท้องถิ่นหรือตามธรรมชาติ มีแม่น้ำ หนองน้ำ ก็หาปลามากินได้เลย โดยไม่ต้องไปหาซื้อ หรือแม้แต่กระทั่งผักก็ปลูกกินเอง ปลอดสารพิษอีกด้วย แต่นับวันความสุขหรือบรรยากาศเหล่านี้เริ่มจะเลือนรางไป เนื่องด้วยคนในชุมชนได้รับเอาเทคโนโลยีหรือความทันสมัยเข้ามาสู่ชุมชนมากขึ้น
เด็กในชุมชนที่เคยเล่นอยู่กับธรรมชาติ ปัจจุบันก็ก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มากขึ้น การคุยกันในครอบครัวหรือความสัมพันธ์ภายในครอบครัวเริ่มลดลง เนื่องจากคนในครอบครัวคุยกันน้อยลง หรือที่เรียกว่า สังคมก้มหน้ามากขึ้น จะทำอะไรหรือมีอะไรเปลี่ยนแปลงในชีวิตจะมีการโพสต์ลงใน social กลายเป็นวิถีชีวิตที่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง ความเป็นส่วนตัวหรือความเป็นอิสระจะลดลง จากที่ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น กลายเป็นว่าเริ่มออกจากธรรมชาติหันหน้าเข้ามาสู่สังคมในเมือง วิถีชีวิตที่เรียบง่ายกลายเป็นวิถีชีวิตที่มีความซับซ้อนเพิ่มขึ้น ความเห็นอกเห็นใจ
หรือความมีน้ำใจที่ได้รับจากคนในชุมชน มีผักไปแลกเป็นปลา หรือทำอาหารแล้วเผื่อแผ่ไปให้เพื่อนบ้าน เริ่มลดลง ผู้คนมีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น ความเสียสละลดลง เห็นประโยชน์ส่วนตนมากกว่าส่วนรวม หรือความร่วมแรงร่วมใจทำงานเพื่อพัฒนาชุมชนก็ลดลง จากความพอเพียงที่เคยมีกลายเป็นความสิ้นเปลืองที่ต้องมี เพื่อให้ทันสมัยเหมือนกับคนอื่น
จากวิถีชีวิตที่ไม่ต้องมีหนี้ กลับกลายเป็นต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ความเป็นวิถีชีวิตในชนบทที่เริ่มกลายเป็นวิถีชีวิตกึ่งสังคมเมืองมากขึ้น ดังนั้นการจะรักษาวิถีชีวิตแบบชนบทเพื่อให้คงอยู่ คือความเป็นตัวของตัวเอง รับวัตถุหรือความทันสมัยมาเฉพาะในส่วนที่ตนเองต้องปรับเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น สุขเท่าที่ตนเองมี พอใจในสิ่งที่ตัวเองได้ วิถีชีวิตแบบชนบทที่เรียบง่ายก็จะยังคงอยู่ต่อไป
ได้รับการสนับสนุนโดย ซื้อหวยฮานอยออนไลน์